หนังสือที่ดีที่สุดโดยพี่น้อง Strugatsky ในปี 2020

ผลงานของพี่น้อง Strugatsky สัมผัสหัวใจของแม้แต่คนที่เย็นชาต่อแนวนิยายวิทยาศาสตร์ ในความเป็นจริงผู้เขียนร่วมหยิบยกประเด็นทางสังคมในผลงานของพวกเขาพวกเขามีความหมายลึกซึ้ง เรื่องราวเกี่ยวกับโลกที่ยังไม่ได้สำรวจที่คิดค้นโดยนักเขียน Arkady และ Boris Strugatsky ไม่เพียง แต่ดึงดูดโครงเรื่องเท่านั้น แต่ยังบังคับให้ผู้อ่านมองโลกแห่งความเป็นจริงที่แตกต่างออกไป

วิธีการเลือกหนังสือจากผลงานของผู้เขียนหลายคน

หนังสือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ Strugatsky ถูกถ่ายทำและเป็นที่รู้จักในประเทศของเรารวมถึงต่างประเทศดังนั้นแม้ว่าด้วยเหตุผลบางอย่างคน ๆ นั้นยังไม่ได้อ่านอะไรเลยจากการสร้างสรรค์ของพี่น้องมากมายคำถามที่ว่าจะเริ่มทำความรู้จักกับนักเขียนที่ยิ่งใหญ่ได้ที่ไหนก็มักจะไม่เกิดขึ้น คุณต้องเริ่มด้วยนวนิยายที่มีชื่อเสียงที่สุดเช่น Roadside Picnic, Hard to Be God, Inhabited Island, Monday Starts Saturday, Trainees

การรับรู้ผลงานวรรณกรรมเป็นเรื่องส่วนตัวและเป็นรายบุคคลดังนั้นหนังสือที่ดีที่สุดจาก Arkady และ Boris Strugatsky จึงแตกต่างกันสำหรับทุกคน

ผู้อ่านนวนิยาย Strugatsky มุ่งเน้นไปที่อายุใด?

เป็นที่เชื่อกันว่าผู้อ่านที่เป็นวัยรุ่นไม่สามารถเข้าใจความหมายที่ลึกซึ้งทั้งหมดของผลงานได้เนื่องจากโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมเพียงอย่างเดียว ในความเป็นจริงทุกอย่างเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลเนื่องจากเด็กทุกคนมีพัฒนาการตามจังหวะของตัวเอง ไม่ว่าในกรณีใดหากเด็กรักและหลงใหลในการอ่านตั้งแต่อายุสิบสองปีคุณสามารถเสนอให้อ่านนวนิยายเรื่อง“ ยากที่จะเป็นพระเจ้า” หรือ“ วันจันทร์เริ่มในวันเสาร์” ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการพัฒนาอารมณ์ขันที่ดี

หนังสือไม่เพียงให้ความบันเทิงในธรรมชาติช่วยให้คุณได้ใช้เวลาอยู่บนท้องถนน แต่ยังเป็นเวลาที่ใช้ในการรณรงค์ที่ดีของบุคคลที่น่าสนใจสองคนที่เก่งที่สุดในบรรดานักเขียนวิทยาศาสตร์และนิยายสังคมชาวรัสเซีย

หนังสือแนะนำส่วนใหญ่โดยผู้เขียนเหล่านี้อ้างอิงจากผู้อ่าน

เป็นเวลานานหนังสือของ Arkady Natanovich และ Boris Natanovich ถูกถอนออกจากการเข้าถึงฟรีบนเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ดังนั้นจึงไม่สามารถดาวน์โหลดนวนิยายฟรีหรืออ่านทางออนไลน์ได้

ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยในการดาวน์โหลดทอร์เรนต์นั้นสูงเกินความคาดหมายของผู้ใช้ทั่วไปและไม่ต้องสงสัยเลยว่าได้ย้ายออกไปจากความคุ้นเคยกับวรรณกรรมชิ้นเอก โชคดีที่เมื่อเร็ว ๆ นี้ข้อ จำกัด ใด ๆ ได้ถูกลบออกไปและตอนนี้ทุกคนสามารถอ่านนวนิยายโดยใช้อุปกรณ์ใดก็ได้ดาวน์โหลดหนังสือโดยนักเขียนคนโปรดของพวกเขา

"ยากที่จะเป็นพระเจ้า"

นวนิยายวิทยาศาสตร์ได้รับการตีพิมพ์ในปีพ. ศ. 2507 โดยเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันของผู้แต่ง Distant Rainbowผลงานนี้ได้รับการฉายในปี 2013 แต่ผู้กำกับ Alexei German ซึ่งมองหาโอกาสและบทที่เหมาะสมสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้มาหลายปีไม่สามารถเห็นผลงานของเขาได้เนื่องจากเขาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ลูกชายของผู้อำนวยการสามารถทำงานที่เขาเริ่มต้นกับพ่อของเขาได้สำเร็จเนื่องจาก Alexey German Jr. เดินตามรอยเท้าพ่อของเขาและกลายเป็นผู้อำนวยการ

การดำเนินเรื่องที่ยอดเยี่ยมทำให้ผู้อ่านได้สัมผัสกับดาวเคราะห์ดวงอื่นอารยธรรมที่ล้าหลังโลกมากจนเทียบได้กับยุคกลางอันมืดมิด บนโลกที่เคยสงบสุขและรุ่งเรืองความวุ่นวายและความอยุติธรรมที่ครองราชย์เริ่มขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอำนาจและลำดับความสำคัญทางการเมืองหลักที่ปฏิเสธความจำเป็นในการศึกษา

คำสั่งที่โหดร้ายอย่างน่าประหลาดใจครอบงำอาณาจักรอาร์คานาร์ คนที่มีวิจารณญาณซึ่งมีการศึกษาและมีความสามารถในการตัดสินใจอย่างอิสระจะต้องถูกข่มเหงและการทรมานทุกรูปแบบ

อนาคตได้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้และความคืบหน้าได้ก้าวไปไกลจนมนุษย์โลกสามารถสังเกตเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในดินแดนของ Arkanara ที่ผิดปกติได้ ผู้สังเกตการณ์จากโลกที่ถูกส่งไปยัง Arkanara และได้รับการแนะนำอย่างลับๆในตำแหน่งของราชองครักษ์ไม่มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนเส้นทางประวัติศาสตร์ของอารยธรรมต่างดาวตามกฎของ "Bloodless Impact" ดังนั้นพวกเขาสามารถช่วยชีวิตตัวแทนที่โชคร้ายและถูกข่มเหงของแต่ละคนของอารยธรรมที่ต่อสู้กับความโง่เขลาและการสร้างสังคมที่สามารถปฏิบัติตามคำสั่งของผู้นำระดับสูงได้อย่างซื่อสัตย์เท่านั้น

• หนังสือเล่มนี้อาจเป็นที่สนใจไม่เพียง แต่สำหรับผู้อ่านที่เป็นผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเด็ก ๆ ในโรงเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายด้วยเนื่องจากหนังสือเล่มนี้ตั้งคำถามเกี่ยวกับความจำเป็นในการศึกษาความสัมพันธ์ของมนุษย์การเห็นแก่ผู้อื่นความยุติธรรมคุณค่านิรันดร์การพัฒนาจิตวิญญาณ
• เรื่องนี้สามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่จะน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับวัยรุ่นที่จะอ่านเรื่องราวในรูปแบบสิ่งพิมพ์พร้อมภาพประกอบประกอบ
• ตัวละครหลัก Don Rumata Estorsky แสดงคุณสมบัติของอัศวินและเป็นตัวอย่างที่ดีของบุคคลที่สดใสและมีเกียรติที่สามารถปกป้องความจริงได้
• ตัวละครหลักไม่ใช้อำนาจและความรู้เพื่อจุดประสงค์ที่เห็นแก่ตัวไม่ยอมรับความเป็นไปได้ที่จะเอาชีวิตสิ่งมีชีวิต
• ผู้เขียนแสดงให้เห็นถึงปัญหาที่คนปกติไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้และไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมื่อ Rumata ตัดสินใจที่จะดำเนินการอย่างสิ้นหวังเพื่อบุกเข้ายึดวังที่ถูกทรราชครอบครอง

• ความประทับใจที่ยังคงอยู่หลังจากอ่านเรื่องราวนั้นหนักหน่วงเนื่องจากไม่มีตอนจบที่มีความสุขตัวละครหลักตระหนักดีว่าการรัฐประหารใด ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจด้วยวิธีที่นองเลือดหรือไร้เลือดจะทำให้อารยธรรมเข้าสู่วงจรที่ไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งเจ้าหน้าที่บางคนเข้ามาแทนที่คนอื่นและคนที่หิวโหยจะฟื้นฟูโลกที่สั่นคลอนครั้งแล้วครั้งเล่า ...

"ปิกนิกริมถนน"

การตีพิมพ์ผลงานครั้งแรกในปี พ.ศ. 2515 ต่อมาได้รับการแก้ไขหลายครั้งจากบรรณาธิการซึ่งตรงกันข้ามกับสามัญสำนึก เรื่องราวถูกลืมไปนานแล้วและได้รับการพิมพ์ซ้ำในรูปแบบที่ไม่รู้จักมาก่อนในปี 1989 เท่านั้น

ภาพยนตร์เรื่อง "Stalker" กำกับโดย Andrei Tarkovsky ในปีพ. ศ. 2522 ถ่ายทำร่วมกับผู้เขียนบท Strugatskys เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้มีพื้นฐานมาจากเนื้อเรื่องของเรื่อง "Roadside Picnic"

คำและแนวความคิด "Stalker" เป็นการค้นพบของพี่น้องผู้ร่วมเขียนและกลายเป็นลัทธิใหม่ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายซึ่งแสดงถึงผู้คนที่มีส่วนร่วมในการท่องเที่ยวเชิงอุตสาหกรรมผู้ที่ชอบเยี่ยมชมเขตยกเว้นที่ถูกทิ้งร้างเมืองแห่งความตายและจุดบนแผนที่ที่ไม่รู้จักเป็นวงกว้าง

พล็อตเรื่องนี้ตั้งอยู่ในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษในเมืองที่น่าอัศจรรย์ของปี 1970 ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีอยู่จริง

โลกไม่ได้เป็นสถานที่ที่เจริญรุ่งเรืองอีกต่อไปเนื่องจากถูกแบ่งออกเป็นโซน ๆ ซึ่งบางส่วนคุณสามารถมีชีวิตอยู่ได้และในที่อื่น ๆ ก็เป็นอันตรายต่อชีวิต

อะไรคือสาเหตุของความผิดปกติที่นำไปสู่การกลายพันธุ์ของมนุษย์และสัตว์ต่าง ๆ ที่พยายามค้นหาผู้กล้าที่ไปยังเขตต้องห้ามเพื่อค้นหาวัตถุที่มีต้นกำเนิดที่แปลกประหลาด มีการตั้งสมมติฐานว่าสิ่งของที่มีคุณสมบัติอันตรายหรือมีประโยชน์ถูกทิ้งไว้โดยตัวแทนของอารยธรรมนอกโลกซึ่งมาเยี่ยมเยียนโลกและทิ้งขยะเป็นครั้งคราวเช่นเดียวกับผู้คนทิ้งกระป๋องและถุงเปล่าหลังปิกนิก

• ผู้เขียนสัมผัสกับประเด็นของความหลงใหลในผลกำไรความปรารถนาทุกสิ่งที่ผิดกฎหมายและต้องห้ามซึ่งนำไปสู่ความทุกข์ทรมานไม่เพียง แต่ของนักผจญภัยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเด็กญาติและเพื่อน ๆ ด้วย
• เกิดความคิดขึ้นว่าเป้าหมายนั้นเปรียบได้กับการเสียสละที่จะต้องทำเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นหรือไม่
• หนังสืออ่านง่ายเพียงลมหายใจเดียว
• มีการดัดแปลงเรื่องราวหลายอย่างรวมถึงซีรีส์ทีวีต่างประเทศล่าสุดที่สร้างจากนวนิยาย Roadside picnic ทาง AMC

• ไม่พบข้อบกพร่อง

"วันจันทร์เริ่มวันเสาร์"

พล็อตเรื่อง "Monday" มีการบรรยายเป็น 3 ส่วน ได้แก่ "โต๊ะเครื่องแป้งรอบโซฟา" "โต๊ะเครื่องแป้งทุกชนิด" และ "ความฟุ้งเฟ้อ" เรื่องราวที่เขียนขึ้นในปี 1965 ยังคงมีความเกี่ยวข้องในปัจจุบัน แน่นอนว่าการอ่านหนังสือจะให้ช่วงเวลาที่น่าพอใจมากมายซึ่งจะทำให้ผู้อ่านมีกำลังใจ ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของงานทางวิทยาศาสตร์การทดลองความก้าวหน้าทางเทคนิคความสามารถอันน่าทึ่งของนักวิทยาศาสตร์ที่มีความสามารถทางเวทมนตร์

นอกจากนี้ผู้เขียนร่วมของ Strugatsky ยังตั้งคำถามและปัญหาที่ขัดขวางการพัฒนาวิทยาศาสตร์และสิ่งเหล่านี้ ได้แก่ ระบบราชการการใช้อำนาจในทางที่ผิดการใช้อำนาจเทียมการบริโภคนิยม

• งานที่ได้รับความนิยมมีอิทธิพลอย่างมากต่อการก่อตัวของวิธีคิดของคนในยุค 60-80
• ผลงานของนักเขียนในประเทศได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศหลายฉบับและตีพิมพ์ในต่างประเทศหลายครั้งภายใต้ชื่อเรื่อง: "Monday Starts On Sunday" ด้วยความช่วยเหลือของผู้แปล Leonid Renen และ Andrew Bromfield;
• สถานการณ์ที่อธิบายไว้ในเรื่องนี้เป็นแบบจำลองเชิงประชดประชันของสิ่งที่มักเกิดขึ้นในองค์กรของรัฐเมื่อผู้คนที่ไม่มีความสามารถใช้จ่ายเงินไปกับโครงการที่ล้มเหลวซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติใด ๆ กับคนอื่นนอกจากคนที่เกี่ยวข้องกับการขโมยงบประมาณในขณะที่ความคิดที่มีพรสวรรค์ ผู้ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้นขาดความสนใจ
• งานนี้ก่อให้เกิดปัญหาของคนที่ออกไปทำงานโดยใช้หัวของพวกเขาเมื่อไม่มีเวลาเหลือสำหรับความสุขง่ายๆในชีวิตและพวกเขาไม่ได้รับการยกย่องอย่างสูง ความหมายของชีวิตคือการมีส่วนร่วมในกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่องดังนั้นผู้คนจึงไม่มีวันอาทิตย์เป็นวันในสัปดาห์และพวกเขาใช้วันหยุดทั้งหมดในการทำงานและมีผู้ช่วยอยู่บ้าน

• ไม่พบข้อบกพร่อง

"เกาะที่มีคนอาศัย"

ผลงานยอดนิยมประเภทนิยายวิทยาศาสตร์เขียนขึ้นในปี พ.ศ. 2512 หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือแนวดิสโทเปียซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากและได้รับการตีพิมพ์ 24 ครั้งในกว่า 13 ประเทศทั่วโลก

หนังสือเล่มนี้ได้กลายเป็นต้นแบบของนิยายโลกคลาสสิกและมีเนื้อหาเท่าเทียมกันและอาจจะเหนือกว่าเรื่อง "เป็นเรื่องยากที่จะเป็นพระเจ้า" ด้วยซ้ำ

เนื้อเรื่องบอกเล่าเรื่องราวของโลกหลังหายนะซึ่งสูญเสียรูปลักษณ์ที่สวยงามดั้งเดิมไปหลังจากสงครามอันเลวร้ายที่ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพิษด้วยรังสีมรณะ

ความรู้ของผู้คนถูก จำกัด โดยสิ่งที่พวกเขากำหนดจากเบื้องบนโดย "บรรพบุรุษที่ไม่รู้จัก" แต่มีคนในสังคมใหม่ที่ไม่สามารถเชื่อฟังได้ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากซอมบี้ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เป็นที่พอใจของผู้ปกครองสูงสุดพวกเขาจึงถูกเรียกว่า "geeks"

Mak Sim นักสำรวจดาวเคราะห์เข้าสู่โลกที่ทรุดโทรมและยังคงเป็นนักโทษอยู่ที่นั่นเนื่องจากเรือที่เขามาถึงถูกทำลาย ตัวละครหลักตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าโครงสร้างที่มีอยู่ของโลกเป็นเท็จและไม่ยุติธรรม แต่ผู้คนไม่สามารถเชื่อได้ว่า "บรรพบุรุษที่ไม่รู้จัก" นั้นชั่วร้ายพวกเขามัวเมากับโฆษณาชวนเชื่อ

• พล็อตที่น่าสนใจของหนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับการอ่านในวัยผู้ใหญ่เนื่องจากภาพจะดูน่ากลัวและน่ากลัวในบางครั้ง
• ผู้เขียนตั้งคำถามอีกครั้งเกี่ยวกับความชั่วร้ายที่การปฏิวัติส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไปเนื่องจากการรัฐประหารมีประโยชน์ต่อผู้จัดงานที่ต้องการได้รับอำนาจเท่านั้น ยิ่งนักปฎิวัติโห่ร้องเกี่ยวกับการกดขี่และความทุกข์ทรมานของประชาชนมากเท่าไหร่ประชากรก็ยิ่งยากที่จะรับมือกับผลของพายุ

• เรื่องราวมีหลายส่วนที่ควรอ่านก่อนชมภาพยนตร์ดัดแปลงจากผลงาน การดัดแปลงตามที่นักวิจารณ์หลายคนไม่เป็นไปตามความคาดหวังและนี่เป็นกรณีที่หนังสือเล่มนี้ดีขึ้น

"หงส์น่าเกลียด"

เป็นเวลานานเรื่องราวไม่ได้เผยแพร่ที่ใดก็ตามการเซ็นเซอร์ไม่ผ่าน ตามพล็อตประเทศที่ไม่รู้จักซึ่งพิการจากสงครามนำไปสู่ชีวิตที่แปลกประหลาดผู้คนถูกแบ่งออกเนื่องจากโรคทางพันธุกรรมที่ยังไม่ได้สำรวจและสภาพอากาศทำให้เป็นที่ต้องการมากเพราะฝนตกอย่างต่อเนื่อง

คนป่วยอยู่อย่างโดดเดี่ยว แต่โรคของพวกเขาไม่ใช่โรคติดต่อ แต่คนเราสามารถเลือกได้ว่าจะป่วยหรือไม่ ทัศนคติที่มีต่อคนที่ถูกขับไล่ในค่ายนั้นคลุมเครือประชากรที่เป็นผู้ใหญ่ไม่ไว้วางใจคนโรคเรื้อนหลายคนเกลียดชังอย่างเปิดเผย แต่ยังมีคนที่เต็มใจหรือไม่เต็มใจช่วยเหลือคนผิดปกติ

น่าแปลกที่เด็ก ๆ ได้รับอนุญาตให้สื่อสารกับคน "ป่วย" รุ่นน้องปฏิบัติต่อผู้คนที่มีแถบสีดำบนใบหน้าด้วยความเคารพและคารวะ คนเหล่านี้ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ได้รับอาหารทางวิญญาณพวกเขาต้องการหนังสือเพื่อการดำรงอยู่ตามปกติ แต่มีกองกำลังที่จงใจชะลอการจัดหาหนังสือใหม่เข้าค่าย

จากนั้นความเข้าใจที่ว่าผู้คนจากค่ายนั้นแตกต่างกันบางทีพวกเขาอาจกลับมาจากอนาคตอันไกลโพ้นกลับไปสู่อดีตเพื่อป้องกันหรือแก้ไขข้อผิดพลาดที่อาจนำไปสู่หายนะในอนาคต งานของคนในค่ายคือการให้ความรู้กับเด็ก ๆ เพื่อให้แนวทางแก่พวกเขาที่พวกเขาสามารถพึ่งพาได้ในชีวิต

• หนังสือเล่มนี้ทำให้คุณคิดถึงสิ่งที่สำคัญจริงๆในชีวิตและสิ่งที่เป็นภาพลวงตาใครบ้างที่ถือได้ว่าป่วยและคนที่มีสุขภาพดีและใครถูกกำหนดให้ไปสู่อนาคตที่สดใส

• ไม่พบข้อบกพร่อง

“ เมืองถึงวาระ”

ทุกวันนี้งานนี้ยากที่จะเข้าใจ แต่ก็ยังคงน่าสนใจและมีความเกี่ยวข้องไม่สิ้นสุด

ผู้เขียนร่วมตั้งคำถามถึงความได้เปรียบของการทดลองในแวดวงเศรษฐกิจและสังคม อะไรคือสิ่งที่จะเข้าใจว่าดีและอะไรคือความชั่วร้ายที่บริสุทธิ์ภายใต้หน้ากากของเจตนาดี

ผลงานเต็มไปด้วยความหมายเชิงปรัชญาที่ลึกซึ้งและแสดงให้เห็นว่าอุดมคติสามารถล่มสลายได้ง่ายเพียงใดโลกทัศน์เปลี่ยนไป ผู้ศรัทธาที่คลั่งไคล้สามารถค้นพบตัวเองได้ในทันทีเพียงใดในพื้นที่ที่ไม่ให้พื้นใต้เท้าของพวกเขาและไม่ใช่ความหวังอันริบหรี่

• ภาพที่น่าทึ่งของ Nicholas Roerich เป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้ผู้เขียนสร้างผลงานชิ้นเอกนี้ซึ่งชื่อนี้ยังยืมมาจาก Roerich;
• นวนิยายเชิงปรัชญาที่เขียนขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ซึ่งกลายเป็นนิยายวิทยาศาสตร์คลาสสิก

สรุป

นักเขียนชาวรัสเซียหลายคนที่เขียนนิยายวิทยาศาสตร์ประเภทนี้ประสบความสำเร็จอย่างที่ Boris และ Arkady Strugatsky ซึ่งทำงานอย่างมีประสิทธิผลและมีประสิทธิผลสมควรได้รับอย่างถูกต้อง

หลังจากอ่านผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของผู้เขียนคุณสามารถดำเนินการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลงานของ Strugatsky

ความยากลำบากที่เป็นไปได้ในการรับรู้หนังสือของพี่น้องส่วนใหญ่เกิดจากความประมาทเนื่องจากพลาดส่วนใดส่วนหนึ่งของพล็อตจึงดูเหมือนยากที่จะรวบรวมความคิดทั้งหมดเข้าด้วยกัน

อย่างไรก็ตามหนังสือดังกล่าวพบผู้ชื่นชมจำนวนมากและนักวิจารณ์ไม่ได้ข้ามผลงานของนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ แต่ต้องยอมรับว่างานเขียนในศตวรรษที่ผ่านมามีลักษณะเชิงพยากรณ์ ผู้อ่านรับรู้เหตุการณ์ของความเป็นจริงในปัจจุบันตัวละครทางการเมืองและภัยพิบัติที่เกิดขึ้นช้ากว่าการตีพิมพ์เรื่องราวและนวนิยายของ Strugatskys โดยไม่เจตนา